เน็ตซิมแบบนี้จะต้องเติมเงินก่อนจากนั้นเมื่อเราเติมเงินเรียบร้อยก็ต้องทำการเลือกแพ็คเกจที่ต้องการจึงจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งแพ็คเกจต่างๆ ก็แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คล้ายกับแบบรายเดือนคือ คิดค่าบริการตามชั่วโมงการใช้งาน และคิดค่าบริการตามปริมาณการรับ-ส่งข้อมูล
ข้อดีของการใช้เน็ตซิมแบบเติมเงินก็คือเราสามารถควบคุมยอดเงินที่เราใช้จ่ายสำหรับการเล่นเน็ตแต่ละครั้งได้โดยที่มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใช้บริการส่วนเกินมาให้ปวดหัวแน่นอน แต่ข้อเสียก็คือการใช้งานอาจจะไม่ต่อเนื่อง เพราะเมื่อเงินในซิมที่เราเติมไว้หมด ซิมก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีก หรือหากใช้งานครบตามแพ็คเกจที่สมัครไว้ เราก็จะไม่สามารถใช้เน็ตซิมใบนั้นต่อได้จนกว่าจะเติมเงินและสมัครแพ็คเกจใหม่
การเลือกใช้เน็ตซิมแต่ละครั้งจึงควรดูว่าเรามีพฤติกรรมการใช้เน็ตแบบไหน สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใช้เน็ตกันแทบตลอดเวลานั้น การเลือกใช้ซิมแบบ Unlimited แบบจ่ายรายเดือนดูจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด ส่วนเด็กประถม ผู้ใหญ่วัยทำงานบางคนหรือผู้สูงอายุที่ไม่ได้เล่นเน็ตตลอดเวลา อาจใช้ซิมแบบเติมเงินและเลือกใช้แพ็คเกจที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานจะช่วยคุมรายจ่ายได้ดีกว่าครับ
