image by freepik

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับอาการเจ็ทแล็กว่ามันคืออาการอะไรกันแน่ และจะมีวิธีรับมืออย่างไร เพื่อให้การออกทริปต่างประเทศของเราสนุกสุดฟิน ไม่ต้องเฟลเพราะเกิดเจ็ทแล็กครับ  

อาการเจ็ทแล็กนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย มักเกิดจากการเดินทางที่ยาวนานหรือการเดินทางข้ามเขตโซนเวลาที่มีความแตกต่างกันมากๆ อาการของผู้ที่เป็นเจ็ทแล็กส่วนใหญ่ มักจะเกิดความอ่อนล้า อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ ไม่อยากอาหาร รู้สึกเวียนศีรษะและไม่อยากอาหาร นอกจากนี้ยังมีความรู้สึกเครียด วิตกกังวลและหงุดหงิดง่ายร่วมด้วย

1. ปรับตัวให้เข้ากับเขตเวลาใหม่ให้เร็วที่สุด

การปรับตัว ปรับพฤติกรรมและปรับเวลาการพักผ่อนให้เข้ากับเขตเวลาใหม่ให้เร็วที่สุดนั้นเป็นวิธีการรับมือกับอาการเจ็ทแล็กที่มีประสิทธิภาพ โดยทันทีที่เราเดินทางไปถึงประเทศจุดหมายปลายทาง ให้ทำการปรับนาฬิกาของเราเพื่อให้เดินตามเวลาของประเทศนั้นทันที จากนั้นพยายามทานอาหารให้ตรงตามมื้อเวลารวมถึงเข้านอนเมื่อถึงเวลาพักผ่อน ยิ่งปรับตัวให้เข้ากับเขตเวลาได้เร็ว อาการเจ็ทแล็กก็จะยิ่งหายไปเร็วขึ้นครับ

image by freepik

2. สวมแว่นกันแดดเพื่อช่วยพรางแสง

การสวมแว่นกันแดดเป็นวิธีรับมือกับเจ็ทแล็กโดยการปรับแสงเข้ามาเป็นตัวช่วย การที่ร่างกายและดวงตารับแสงได้น้อยลงทำให้เราสามารถพักผ่อนได้ง่ายขึ้นและยังทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นด้วย

3. ทำใจให้สงบ มีสติ ไม่ฟุ้งซ่าน

ทั้งก่อนและหลังเดินทางเราวรตั้งสติ ทำจิตใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน การสงบสติอารมณ์จะช่วยให้จิตใจของเรานิ่งขึ้น มีสมาธิขึ้น ไม่เครียดง่ายเมื่อเจอกับอาการเจ็ทแล็กครับ

4. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ

อาการขาดน้ำจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและระบบต่างๆ ทำงานไม่เป็นปกติมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมพกขวดน้ำและดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อทำให้ร่างกายสดชื่น อีกทั้งการดื่มน้ำจะช่วยลดความอ่อนล้าและยังช่วยเติมความสดชื่นให้ร่างกายอีกด้วย

 5. ทำตัวเองให้รู้สึกสบายที่สุด

ระหว่างเดินทางโดยเฉพาะการเดินทางเป็นเวลานานควรทำตัวเองให้รู้สึกสบายมากที่สุด เช่น หาหมอนรองคอ ใช้ที่พักขา ไปจนถึงเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย จะช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น